เมนู

มูลมูลกนยะที่ 4


1. มูลยมกะ :-


ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งที่เป็นนาม มีอยู่, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด
มีมูลที่เป็นนามมูล ใช่ไหม ?
ก็หรือว่าธรรมเหล่าใด มีมูลที่เป็นนามมูล มีอยู่, ธรรมเหล่า
นั้นทั้งหมด เป็นนาม ใช่ไหม ?

2. เอกมูลยมกะ :-


ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ที่เป็นนาม มีอยู่, ธรรมเหล่านั้นทั้ง
หมด มีมูลที่เรียกว่าเป็นมูลอันเดียวกันกับนามมูล ใช่ไหม ?
ก็หรือว่าธรรมเหล่าใด มีมูลที่เรียกว่าเป็นมูลอันเดียวกันกับ
นามมูล มีอยู่, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด เป็นนาม ใช่ไหม ?

3. อัญญมัญญมูลยมกะ :-


ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง มีมูลที่เรียกว่าเป็นมูลอันเดียวกันกับ
นามมูล มีอยู่, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีมูลที่เรียกว่าเป็นมูลแก่กัน
และกันกับนามมูล ใช่ไหม ?
ก็หรือว่าธรรมเหล่าใด มีมูลที่เรียกว่าเป็นมูลแก่กันและกันกับ
นามมูล มีอยู่, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีนาม ใช่ไหม ?

[5] ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ที่เป็นกุศล มีอยู่, ธรรมเหล่า
นั้นทั้งหมด เป็นกุศลเหตุ ใช่ไหม ?
....................เป็นกุศลนิทาน ใช่ไหม ?
....................เป็นกุศลสัมภวะ ใช่ไหม ?
....................เป็นกุศลปภวะ ใช่ไหม ?
....................เป็นกุศลสมุฏฐาน ใช่ไหม ?
....................เป็นกุศลาหาร ใช่ไหม ?
....................เป็นกุศลารัมมณะ ใช่ไหม ?
....................เป็นกุศลปัจจัย ใช่ไหม ?
....................เป็นกุศลสมุทัย ใช่ไหม ?
พระธรรมสังคาหกาจารย์ได้ประพันธ์ไว้เป็นคาถาว่า :-
มูล, เหตุ, นิทาน, สัมภวะ และปภวะ, สมุฏฐาน,
อาหาร, อารัมมณะ, ปัจจัย, และสมุทัย.1
อุทเทสวาระ จบ

1. คำเหล่านี้เป็น ไวพจน์ แก่กันและกัน.

ยมกปฺปกรณฏฺฐกถา


(อรรถกถาแห่งปกรณ์ยมก )


อารมฺภกถา


สงฺเขเปเนว เทวานํ เทวเทโว สุราลเย
กถาตฺถุปฺปกรณํ เทสยิตฺวา รณญฺชโห ฯ
ยมสฺส วีสยาตีโต นานายมกมณฺฑิตํ
อภิธมฺมปฺปกรณํ อฏฺฐํ ฉฏฺฐานเทสโก ฯ
ยมกํ อยมสวฏฺฏ- นีลามลตนูรุโห
ยํ เทสยิ อนุปฺปตฺโต ตสฺส สํวณฺณนากฺกโม
อิทานิ ยสฺมา ตสฺมาสฺส โหติ สํวณฺณนา อยํ ฯ

พระสัมมาสัมพุทธะ ผู้เป็นวิสุทธิเทพ ผู้ประหาณกิเลสอันเป็น
เหตุยังสัตว์ให้ร้องไห้อยู่ในภพน้อยใหญ่ ครั้นทรงแสดงกถาวัตถุปกรณ์
โดยสังเขป แก่ทวยเทพทั้งหลายในสุราลัยเทวโลกแล้ว พระองค์ผู้ก้าว
พ้นเขตแดน ( วิสัย ) ของพระยายม เป็นผู้ไม่มีมลทินเกิดในพระองค์
อันจะหมุนมาสู่วัฏฏะอีก ผู้แสดงธรรมเครื่องประหาณกิเลส ได้ทรง
แสดงอภิธรรมปกรณ์ ชื่อว่า ยมก ซึ้งเป็นปกรณ์ที่ 6 ประดับด้วย
นานายมกไว้แล้ว บัดนี้ ลำดับการสังวรรณนาแห่งปกรณ์นั้น ถึงพร้อม
แล้ว เพราะฉะนั้น การสังวรรณนาจะมีต่อไป.